พนักลาออกเพราะไม่พอใจผู้บริหารคนใหม่

เป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานประมาณ26คน พนักงานส่วนใหญ่ทำงานมาเกินสิบปี เคยมีผู้จัดการเก่าเข้างานอาทิตย์ละสองสามวัน ทำงานไม่เต็มเวลาทั้งวัน ไม่เคยจริงจังกับการทำงาน และเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง จึงทำให้พนักงานไม่เคยกดดันและไม่สนใจบริษัท พอมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และปลดผู้จัดการเก่าออก (เนื่องจากยักยอกเงินบริษัทเป็นเวลานานและหลายล้านบาท)

หลังจากนั้นพนักงานเริ่มมีเรียกร้องการปรับโครงสร้างเงินทั้งหมด อาทิเช่น ค่าคอมมิชชั่น เงินเดือน เบี้ยขยัน ยืดเวลาเครติตของลูกค้า(กรณีที่เป็นเซลล์) ตอนหลังพบว่าเซลล์ส่วนใหญ่เอาเงินไปหมุนก่อนและค่อยจ่ายบริษัททีหลัง และมีพนักงานบางคนในแต่ละพนักแผนกลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ ทุกอย่างเปิดเผยเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผู้บริหารเข้ามาคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง 

เริ่มจากพูดคุยกับพนักงานทุกคน ฟังความคิดเห็นแล้วค่อยๆปรับกันไปทีละเรื่อง มีคนพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง แต่ก็ทนทำกันไป มาถึงจุดที่โควิดระบาดรอบสอง เงินเย็นบริษัทหมดเหลือแต่เงินหมุนเวียนเดือนต่อเดือน และลูกค้าลดลง 80% 

ทำให้ผู้บริหารต้องพูดคุยและขอความเห็นใจ เรื่องปรับวันทำงานน้อยลงและจ่ายค่าจ้างตามวันทำงานแทน ผ่านไปได้ห้าเดือน พนักงานเรียกร้องขอเงินเดือนเต็มแลกกับการทำงานตามเวลาปกติ (ซึ่งบริษัทไม่มีงานให้ทำเนื่องจากไม่มีลูกค้า) 

ผู้บริหารตกลงรับปาก และหาลูกค้าด้วยตัวเอง เพราะเซลล์หมดไฟในการทำงานไปแล้ว ทุกวันนี้มีหน้าที่ไปส่งงาน วางบิล เก็บเงิน (เข้ากระเป๋าตัวเองบ้าง ซึ่งผู้บริหารรู้แต่เห็นว่าน้อยลงมากเลยปอดหูปิดตาบ้าง) 

แต่พนักงานทุกคนไม่เคยพอใจในสิ่งที่ได้ เช่น ได้ลดเวลาการทำงานแล้ว มาสายได้15นาทีโดยได้เบี้ยขยัน หาคนมาเพิ่มแทนพนักงานที่ลาออก ปรับเงินเดือนให้พนักงานทุกปี มีโบนัสครึ่งเดือนให้ในสถาณการณ์โควิด19 ทั้งที่บริษัทขาดทุน และต้องกู้ยืมจากธนาคารมาหมุนเวียนภายในบริษัทให้อยู่รอดจนถึงวันนี้

เมื่อมีการเรียกร้องมากขึ้น จึงมีการประชุมกันทุกๆเดือน ปรับการทำงานใหม่เรื่อยๆ จนพนักงานลาออกเดือนทุกเดือน ตั้งแต่พค.64 จนถึงปัจจุบัน 

เหตุผลหลักคือพนักงานทุกคนชอบทำงานแบบเก่ามากกว่าปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในสถาณการณ์แบบนี้

อยากสอบถามว่าควรทำยังไงให้พนักงานเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ และมองเห็นสิ่งที่ได้มากกว่าสิ่งที่ขาด ปรับทัศนคติอย่างไรให้ทำเพื่อส่วนรวม ประสานงานกันได้แบบไม่ทะเลาะกัน รวมถึงการเรียกร้องสิทธิ์มากมายที่ขอมาไม่เคยขาด 

จุดอ่อนคือพนักงานทุกคนเห็นแก่ตัวและผลประโยชน์เท่านั้น

จุดแข็ง ทำงานมีประสบการณ์มากกว่าสิบปี

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ HR ปวดหัวมากกับการเป็นคนกลางที่ไม่สามารถเคลียร์อะไรได้เลย 

ขอบคุณค่ะ

คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

3 คำตอบ

หากต้องการอ่านคำตอบทั้งหมด
กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
(ใช้เวลาไม่นานในการสมัคร)

อันดับผู้ให้ข้อมูล