- ผู้อำนวยการ/ผู้บริหาร (Director/C-Level)
- ทรัพยากรมนุษย์/บุคคล
- โรงงาน/การผลิต
- 11~50 คน
พนักลาออกเพราะไม่พอใจผู้บริหารคนใหม่
เป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานประมาณ26คน พนักงานส่วนใหญ่ทำงานมาเกินสิบปี เคยมีผู้จัดการเก่าเข้างานอาทิตย์ละสองสามวัน ทำงานไม่เต็มเวลาทั้งวัน ไม่เคยจริงจังกับการทำงาน และเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง จึงทำให้พนักงานไม่เคยกดดันและไม่สนใจบริษัท พอมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และปลดผู้จัดการเก่าออก (เนื่องจากยักยอกเงินบริษัทเป็นเวลานานและหลายล้านบาท)
หลังจากนั้นพนักงานเริ่มมีเรียกร้องการปรับโครงสร้างเงินทั้งหมด อาทิเช่น ค่าคอมมิชชั่น เงินเดือน เบี้ยขยัน ยืดเวลาเครติตของลูกค้า(กรณีที่เป็นเซลล์) ตอนหลังพบว่าเซลล์ส่วนใหญ่เอาเงินไปหมุนก่อนและค่อยจ่ายบริษัททีหลัง และมีพนักงานบางคนในแต่ละพนักแผนกลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ ทุกอย่างเปิดเผยเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผู้บริหารเข้ามาคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
เริ่มจากพูดคุยกับพนักงานทุกคน ฟังความคิดเห็นแล้วค่อยๆปรับกันไปทีละเรื่อง มีคนพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง แต่ก็ทนทำกันไป มาถึงจุดที่โควิดระบาดรอบสอง เงินเย็นบริษัทหมดเหลือแต่เงินหมุนเวียนเดือนต่อเดือน และลูกค้าลดลง 80%
ทำให้ผู้บริหารต้องพูดคุยและขอความเห็นใจ เรื่องปรับวันทำงานน้อยลงและจ่ายค่าจ้างตามวันทำงานแทน ผ่านไปได้ห้าเดือน พนักงานเรียกร้องขอเงินเดือนเต็มแลกกับการทำงานตามเวลาปกติ (ซึ่งบริษัทไม่มีงานให้ทำเนื่องจากไม่มีลูกค้า)
ผู้บริหารตกลงรับปาก และหาลูกค้าด้วยตัวเอง เพราะเซลล์หมดไฟในการทำงานไปแล้ว ทุกวันนี้มีหน้าที่ไปส่งงาน วางบิล เก็บเงิน (เข้ากระเป๋าตัวเองบ้าง ซึ่งผู้บริหารรู้แต่เห็นว่าน้อยลงมากเลยปอดหูปิดตาบ้าง)
แต่พนักงานทุกคนไม่เคยพอใจในสิ่งที่ได้ เช่น ได้ลดเวลาการทำงานแล้ว มาสายได้15นาทีโดยได้เบี้ยขยัน หาคนมาเพิ่มแทนพนักงานที่ลาออก ปรับเงินเดือนให้พนักงานทุกปี มีโบนัสครึ่งเดือนให้ในสถาณการณ์โควิด19 ทั้งที่บริษัทขาดทุน และต้องกู้ยืมจากธนาคารมาหมุนเวียนภายในบริษัทให้อยู่รอดจนถึงวันนี้
เมื่อมีการเรียกร้องมากขึ้น จึงมีการประชุมกันทุกๆเดือน ปรับการทำงานใหม่เรื่อยๆ จนพนักงานลาออกเดือนทุกเดือน ตั้งแต่พค.64 จนถึงปัจจุบัน
เหตุผลหลักคือพนักงานทุกคนชอบทำงานแบบเก่ามากกว่าปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในสถาณการณ์แบบนี้
อยากสอบถามว่าควรทำยังไงให้พนักงานเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ และมองเห็นสิ่งที่ได้มากกว่าสิ่งที่ขาด ปรับทัศนคติอย่างไรให้ทำเพื่อส่วนรวม ประสานงานกันได้แบบไม่ทะเลาะกัน รวมถึงการเรียกร้องสิทธิ์มากมายที่ขอมาไม่เคยขาด
จุดอ่อนคือพนักงานทุกคนเห็นแก่ตัวและผลประโยชน์เท่านั้น
จุดแข็ง ทำงานมีประสบการณ์มากกว่าสิบปี
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ HR ปวดหัวมากกับการเป็นคนกลางที่ไม่สามารถเคลียร์อะไรได้เลย
ขอบคุณค่ะ
หลังจากนั้นพนักงานเริ่มมีเรียกร้องการปรับโครงสร้างเงินทั้งหมด อาทิเช่น ค่าคอมมิชชั่น เงินเดือน เบี้ยขยัน ยืดเวลาเครติตของลูกค้า(กรณีที่เป็นเซลล์) ตอนหลังพบว่าเซลล์ส่วนใหญ่เอาเงินไปหมุนก่อนและค่อยจ่ายบริษัททีหลัง และมีพนักงานบางคนในแต่ละพนักแผนกลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ ทุกอย่างเปิดเผยเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ผู้บริหารเข้ามาคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
เริ่มจากพูดคุยกับพนักงานทุกคน ฟังความคิดเห็นแล้วค่อยๆปรับกันไปทีละเรื่อง มีคนพอใจบ้างไม่พอใจบ้าง แต่ก็ทนทำกันไป มาถึงจุดที่โควิดระบาดรอบสอง เงินเย็นบริษัทหมดเหลือแต่เงินหมุนเวียนเดือนต่อเดือน และลูกค้าลดลง 80%
ทำให้ผู้บริหารต้องพูดคุยและขอความเห็นใจ เรื่องปรับวันทำงานน้อยลงและจ่ายค่าจ้างตามวันทำงานแทน ผ่านไปได้ห้าเดือน พนักงานเรียกร้องขอเงินเดือนเต็มแลกกับการทำงานตามเวลาปกติ (ซึ่งบริษัทไม่มีงานให้ทำเนื่องจากไม่มีลูกค้า)
ผู้บริหารตกลงรับปาก และหาลูกค้าด้วยตัวเอง เพราะเซลล์หมดไฟในการทำงานไปแล้ว ทุกวันนี้มีหน้าที่ไปส่งงาน วางบิล เก็บเงิน (เข้ากระเป๋าตัวเองบ้าง ซึ่งผู้บริหารรู้แต่เห็นว่าน้อยลงมากเลยปอดหูปิดตาบ้าง)
แต่พนักงานทุกคนไม่เคยพอใจในสิ่งที่ได้ เช่น ได้ลดเวลาการทำงานแล้ว มาสายได้15นาทีโดยได้เบี้ยขยัน หาคนมาเพิ่มแทนพนักงานที่ลาออก ปรับเงินเดือนให้พนักงานทุกปี มีโบนัสครึ่งเดือนให้ในสถาณการณ์โควิด19 ทั้งที่บริษัทขาดทุน และต้องกู้ยืมจากธนาคารมาหมุนเวียนภายในบริษัทให้อยู่รอดจนถึงวันนี้
เมื่อมีการเรียกร้องมากขึ้น จึงมีการประชุมกันทุกๆเดือน ปรับการทำงานใหม่เรื่อยๆ จนพนักงานลาออกเดือนทุกเดือน ตั้งแต่พค.64 จนถึงปัจจุบัน
เหตุผลหลักคือพนักงานทุกคนชอบทำงานแบบเก่ามากกว่าปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในสถาณการณ์แบบนี้
อยากสอบถามว่าควรทำยังไงให้พนักงานเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ และมองเห็นสิ่งที่ได้มากกว่าสิ่งที่ขาด ปรับทัศนคติอย่างไรให้ทำเพื่อส่วนรวม ประสานงานกันได้แบบไม่ทะเลาะกัน รวมถึงการเรียกร้องสิทธิ์มากมายที่ขอมาไม่เคยขาด
จุดอ่อนคือพนักงานทุกคนเห็นแก่ตัวและผลประโยชน์เท่านั้น
จุดแข็ง ทำงานมีประสบการณ์มากกว่าสิบปี
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ HR ปวดหัวมากกับการเป็นคนกลางที่ไม่สามารถเคลียร์อะไรได้เลย
ขอบคุณค่ะ
3 คำตอบ
หากต้องการอ่านคำตอบทั้งหมด
กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
(ใช้เวลาไม่นานในการสมัคร)
มีบัญชีอยู่แล้ว?เข้าสู่ระบบ
คุณเห็นด้วยกับนโยบายความเป็นส่วนตัว
และได้ศึกษาข้อตกลงในการใช้งานของ HR NOTE ก่อนเข้าใช้ระบบสมาชิก
มีบัญชีอยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบ